วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

แปลบทสัมภาษณ์ อีจงฮยอน จาก Minitheater About JP Movie “Living City”

แปลบทสัมภาษณ์  อีจงฮยอน จาก Minitheater About JP Movie “Living City”
Special Thanks Eng trans by ketch_cp
Thai Trans by BurningSouls Thailand

 
เกี่ยวกับภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Living City
             สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ คือ โตโฮกุ (อยู่ทางเหนือของญี่ปุ่น) เป็นสถานที่ ที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ และแผ่นดินไหว เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
“จริงๆ แล้ว ตอนที่ผมเคยอาศัยอยู่ที่ คันไซ (แถวๆโอซากา)  ผมเคยมีประสบการณ์กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปีนั้น (17 มค. 1995) ผมยังจำความน่ากลัวนั้นได้
            “ผมอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นตอนที่อายุ 4 ขวบ ผมเลยมีความสุขที่ได้มีโอกาสแสดงในภาพยนตร์ญี่ปุ่น 
ผมก็รู้สึกแปลกๆนะ ที่จะได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ของเกาหลี  ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของผู้คนที่ได้รับประสบการณ์ที่ยากลำบาก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือจะต้องพยายามข้ามผ่านมันไปให้ได้ด้วยรอยยิ้ม  ทุกคนครับ ยิ้มเยอะๆในทุกวันๆด้วยนะครับ”

             ผมไปสปากับผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้หลายครั้ง  ตอนแรก หลังจากที่ถ่ายภาพยนตร์เสร็จ
เรามีโอกาสไปเจอกันที่สปาเดียวกัน  เราเลยได้พูดคุยกันในสปา เป็นความทรงจำที่ดีครับ

             ผมชอบภาพยนตร์ญี่ปุ่น ที่ผ่านๆมาก็เช่นเรื่อง “Your Name” “Josee, the Tiger and the fish, If Cats Disappeared from the world และอีกหลายๆ เรื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมชอบภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตแบบเป็นธรรมชาติของผู้คน

             ผมเกือบจะเข้าใจภาษาญี่ปุ่นในภาพยนตร์แบบไม่ต้องอ่านซับไตเติ้ลเลยนะ  ผู้กำกับบอกกับผมว่า “ภาษาญี่ปุ่นของคุณดีมาก {หัวเราะ}  ผมเลยคิดว่า ในภาพยนตร์ที่ผมถ่าย ไม่ต้องพูดภาษาญี่ปุ่น
แบบเป๊ะๆก็ได้ บางคำก็ยากสำหรับผม คุณมาริ (นักแสดงนำหญิง) ได้ช่วยผมในการฝึกออกเสียงที่ถูกต้องด้วยครับ

              คุณมาริ (นักแสดงนำหญิง) มีความสมบูรณ์แบบในการเข้าถึงบทบาทของเธอมากครับ
ผมได้ยินมาว่า เธอเป็นนักแสดงที่เยี่ยมมาก ผมแปลกใจมากเลย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นมืออาชีพ เธอก็ยังเป็นคนที่เป็นมิตรและเคารพคนอื่นมากๆด้วย

              การถ่ายทำภาพยนตร์ญี่ปุ่น ค่อนข้างราบรื่น ตรงเวลา  ที่เกาหลี เราใช้เวลาในการรอค่อนข้างนาน ผมว่า ควรมาเรียนรู้จากญี่ปุ่นนะ (หัวเราะ)

(เกี่ยวกับการทำงานเดี่ยว)
             ปกติแล้ว ผมคุ้นเคยกับการทำงานเป็นวง และก็รู้สึกสะดวกสบายมากกว่า  การทำอะไรเพียงลำพัง ผมรู้สึกเศร้า แต่ผมรู้ว่ามีบางอย่างที่ผมจะสามารถแสดงได้ในการแสดงเดี่ยว และ แฟนๆ ก็รอผมอยู่ ดังนั้น ผมจึงต้องทำงานอย่างหนัก แม้ว่าผมจะรู้สึกเสียใจ ที่ไม่มีสมาชิกของ CNBLUE อยู่บนเวทีกับผม

เพิ่มเติม
ตลอดการให้สัมภาษณ์กับ MiniTheater อีจงฮยอนได้พูดคุยด้วยภาษาญี่ปุ่น แต่เมื่อได้มีการพูดคุยถึงหัวข้อที่เกี่ยวกับภัยพิบัติ เขาได้มีการตรวจสอบคำพูดของเขากับล่ามก่อน สร้างความประทับใจให้กับคนที่สัมภาษณ์เขาเป็นอย่างยิ่ง (cr. Eng trans huua15)

(**เพิ่มเติม ที่อีจงฮยอนต้องใช้ล่ามตอนที่พูดถึงภัยพิบัติ เพราะเกรงว่า ถ้าใช้คำพูดไม่ถูกต้อง จะส่งผลกระทบนั่นเอง)

วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

แปลข่าว #LeeJongHyun #이종현 #อีจงฮยอน #CNBLUE

แปลข่าว #LeeJongHyun #이종현 #อีจงฮยอน
#CNBLUE คือครอบครัว ไม่ได้แสดงออกมากนัก แต่ก็อยู่เคียงข้างกันเสมอและรู้ว่าพวกเขาสำคัญขนาดไหน @cnbluegt -------------------------------------------------------- เขาบอกว่า "มันก็นานมาแล้วนะฮะ ที่ผมได้ยินเสียงตอบรับดีๆในขณะถ่ายทำละคร" "ผมรู้สึกดีใจและขอบคุณมากฮะ"
เมื่อถูกถามถึงเมมเบอร์ของวง CNBLUE ที่ทั้งหมดต่างก็มีความสามารถทางด้านการแสดงด้วยเช่นกัน ว่าพวกเขาได้ดูละครหรือไม่ จงฮยอนตอบว่า "พวกเราให้ความสนใจในงานของเมมเบอร์แต่ละคนนะฮะ แต่เราจะไม่คอมเมนท์ถึงงานนั้นๆ 
เรามักจะได้ยินคนอื่นถามบ่อยๆว่า 'วงของคุณดูจะสนิทกันดีออก ทำไมไม่ออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆละ' แต่ผมก็จะตอบไปว่า 'พี่น้องเนี่ย เค้ามักจะออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆหรือฮะ?'
ผมคิดว่าพวกเขาเป็นเหมือนครอบครัวของผม แน่นอนว่าพวกเขาจะอยู่เคียงข้างผมเสมอ และผมก็ซึ้งใจในตัวพวกเขา และผมเองก็รู้ดีด้วยว่าพวกเขาสำคัญต่อผมมากขนาดไหน แต่ แทนที่จะแสดงออกให้คนภายนอกเห็น และผมก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่าพวกเราจะล้อเล่นกันและสนับสนุนกันและกันในแบบนี้" พูดถึงเรื่องการแสดงของเมมเบอร์ (ตอนนี้คังมินฮยอกแสดงในละครเรื่อง "Hospital Ship" ในขณะที่ จองยงฮวากำลังแสดงเรื่อง "The Package") อีจงฮยอนกล่าวว่า "มันน่าประทับใจมากๆที่ได้เห็นเมมเบอร์ในงานต่างๆแบบนั้น [ตอนผมดูละคร] มันจะทำให้ตั้งใจดูได้ลำบากหน่อยน่ะฮะ พวกเขาแสดงเป็นพระเอกด้วยนะ พวกเราเคารพกันและกันและรู้สึกขอบคุณที่ได้รับมอบโอกาสดีๆเหล่านี้ เพราะงั้นพวกเราทั้งหมดต่างก็ทุ่มเททำงานเพื่อให้ผู้ชมชื่นชอบและพอใจฮะ"

อีจงฮยอนยังกล่าวต่อไปอีกว่าเขาไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไรที่จะต้องถูกมองว่าเป็น 'ไอดอลนักแสดง' เขาบอกว่า "คือการที่ผู้คนเรียกกันแบบนั้น "คุณก็แค่มองข้ามมันไป ทำสมองให้มองข้ามคำนั้นไป ก็ไม่ใช่ว่าจิตวิทยาของคนเราเป็นแบบนี้หรอกเหรอฮะ? เรามองที่ความสำเร็จของคนที่ทำได้ดีมากกว่าที่เราคาดหวังจากพวกเขา ผมคิดว่า ณ เวลานั้นจะต้องเกิดกับผมเช่นกัน และถ้ามันเกิดขึ้นจริงมันจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและมีความสุขสุดๆเลยฮะ"
สุดท้ายแล้วเขายังได้แชร์จุดมุ่งหมายของเขาที่จะทำให้ผู้คนจดจำเขาได้ "ผมว่านักแสดงทุกคนต่างก็มีจุดหมายเดียวกันนะฮะ เมื่อไม่นานมานี้ไม่ค่อยมีละครออกแนวรักใคร่ (melodrama) ระหว่างชายกับหญิงสักเท่าไหร่ และผมเองก็อยากลองเล่นในละครแบบนี้ดูสักครั้ง ผมอยากลองเล่นหนังสายดาร์กด้วยฮะ"
---------------------------------------------------------------------
source : https://www.soompi.com
Thaitrans :myjhkm@BurningSoulsThailand

แปลข่าว เรื่องราวการเติบโต บนเส้นทางการแสดงของอีจงฮยอน

จาก “A Gentleman’s Dignity” 
สู่ “ #GirlsGeneration1979” เรื่องราวการเติบโต
บนเส้นทางการแสดงของอีจงฮยอน  อีจงฮยอนจาก CNBLUE ในฐานะนักแสดง แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาความสามารถทางการแสดงของเขาได้อย่างชัดเจน

เริ่มจากการแสดงในเรื่อง “Acoustic” เมื่อปี 2010
เขาก็กลายมาเป็นดาราที่มีบทบาทมากขึ้นจากเรื่อง “A Gentleman’s Dignity” ละครที่ฉายทางช่อง SBS ในเรื่อง A Gentleman’s Dignity นี้ เขารับบทเป็น Collin ลูกชายลับๆของคิมโดจิน ซึ่งนี่ช่วยแสดงให้เห็นถึงการมีตัวตนของเขาและเรียกความสนใจจากผู้ชมได้มากมาย

ต่อมา อีจงฮยอนรับแสดงในบทแวมไพร์หนุ่ม ฮันชีฮูในเรื่อง “Orange Marmalade”ละครทางช่อง KBS2 เขาลองปรับเปลี่ยนการแสดงในบทบาทที่ได้รับและแสดงในฉากย้อนยุคด้วย ซึ่งนั่นทำให้ละครเรื่องนี้น่าดึงดูดมากขึ้น นอกจากนี้ เขายังแสดงเป็น อนดัล นักแสดงหลักใน Netflix ที่เป็นเวบดรามาเรื่อง“My Only Love Song” ละครตลกที่ได้มีฉากการถ่ายทำแบบย้อนยุคเป็นครั้งแรก

และนี่ทำให้เราได้เห็นเขาที่แสดงในหลายๆบทบาท และหลากหลายประเภทละคร ซึ่งเร็วๆนี้เขาก็ได้รับบทที่ดีที่สุดบทหนึ่งจากเรื่อง Lingerie Girls Generation (Girls ' Generation 1979) ฉายทางช่อง KBS2 ซึ่งเป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของเขาในฐานะนักแสดงของเขาได้เป็นอย่างดี

อีจงฮยอนแสดงเป็น จูยองชุน ชายหนุ่มที่ดูแล้วเป็นคนเย็นชา แต่นั่นเป็นเพียงแค่ภายนอกเพราะเขาเป็นคนที่น่ารักและใจดีมากกว่าใครๆ  และการพูดด้วยภาษาถิ่นของอีจงฮยอนที่พูดได้คงที่ตลอดรวมถึงการแสดงออกทางอารมณ์ (ซีนอารมณ์) ที่เขาแสดงออกมาในบทชายหนุ่มนั้น เขาก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ อีกทั้งยังมีอารมณ์โรแมนติกแต่ต้องเก็บเอาไว้(ไม่แสดงออกมา) กับพัคฮเยจู (นักแสดงหญิง แชซอจิน) ที่ฉุดหัวใจผู้ชมได้อย่างล้นหลามด้วยเวลาเพียงไม่นาน

credit eng trans by huua15
Thai trans by myjhkm@BurningSoulsThailand.
#이종현
http://m.entertain.naver.com/read?oid=112&aid=0002964007&lfrom=twitter

แปล แฟนแอค CNBLUE Starting Over Concert



FA #CNBLUE
ยงใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงแดง
"ผมเลือกชุดไม่ทางการ เพราะเมื่อวานร้อน"
จง : ขอพูดอะไรหน่อย "สไตล์นี้น่ารักมากอ่ะ"
ยง : ฉันล่ะอ๊าย อาย😊😊
จง : ผมก็ใส่เสื้อขาวแบบพี่ แต่พี่ใส่แล้วดูดีกว่า อยากแต่งให้ได้แบบนี้บ้าง เดี๋ยวใส่แบบนี้มั่ง
ยง :ชิน!!?
ชิน :😨😵😳
©a_mh_cnbluexx 
FA #CNBLUE
ก่อนนั้น ชินบอกมือของแฟนๆที่โบกเหมือนดอกไม้ เดซี่! JHบอกว่า เหมือนที่ปัดน้ำฝน
วันนี้ ยงบอกว่า เหมือนดอกไม้ที่พริ้วตามลม
ชิน : เรียกว่าแขนดอกไม้
จง : ไม่ใช่!
ชิน มิน : JHไม่โรแมนติกซะเลย
ยงกระซิบกับชิน : วันนี้JHสนุกมาก
ชิน : JHพูดเยอะเวลาที่สนุก
JHยิ้มเขิน
©ketch_cp
#LeeJongHyun #이종현

แปลบทสัมภาษณ์ "อีจงฮยอน" จากนิตยสารญี่ปุ่น



 credit photo from mini-theater.com

"Starry Places" MV
: ถ่ายทำกันที่สถานที่สำหรับไปเดทกันในญี่ปุ่น คุณนิโคล อิชิดะ กับผมอายุเท่ากัน เลยคิดว่าก็น่าจะถ่ายทำด้วยกันแบบสบายๆ แต่เพราะต้องเร่งรีบกับการถ่ายทำ ผมเลยไม่ค่อยได้คุยกับเธอมากนัก ดูMV นี้ แล้วคิดซะว่าไปเดทกับอีจงฮยอนนะครับ 
 
สำหรับผม "Starry Places” ไม่ใช่เพลงที่ได้อิทธิพลมาจากแนว J-POP แต่เป็นแนว House* ของผมนี่จะแนว Deep- House ไม่นานมานี้ แนว Tropical-House ได้รับความนิยมที่เกาหลี และผมก็ได้พูดคุยกับเพื่อนที่เป็นนักดนตรี “Deep-House” น่าจะเป็นที่นิยมในปีนี้ 

พูดถึงคอนเสิร์ต
ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ แม้ว่า ตอนที่โซโลโดยที่ไม่เล่นกีตาร์ก็ดีอยู่นะ สนใจเฉพาะการร้องเพลงอย่างเดียว แต่ว่า ผมก็มีประสบการณ์มาแค่ครั้งเดียว ดังนั้น โซโลครั้งที่จะถึงนี้ ผมควรจะทำให้ดีขึ้น ผ่อนคลายให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ ผมก็ตั้งตารอที่จะจัดคอนโซโลของผมอยู่ คราวก่อน ผมก็เต้นแล้ว แล้วคราวนี้ จะเอายังไงดีล่ะ? Starry Places เป็นดนตรีแนว Deep House (ผสมผสานกันระหว่าง Jazz-Funk และ Chicago House) หรือจะจัดคอนแนว ดิสโก้ ดีล่ะ ผมอยากทำให้ทุกๆคนเซอร์ไพรส์ ผมเลยคิดไปหลากหลายแนว 

(เกี่ยวกับช่วงเวลาสุดท้ายของวัย 20)
ผมอยากให้ทุกๆคนมีรอยยิ้มมากขึ้นในปีนี้ ทุกวันนี้ ผู้คนยิ้มกันน้อยลง ผมอยากเห็นทุกคนมีรอยยิ้ม หวังให้ทุกคนมีความสุข เพราะงั้น ผมเลยจะต้องยิ้มก่อน ไม่เคยคิดอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

ผมรู้สึกกดดัน ตอนที่ทำอัลบั้มเดี่ยว ผมไม่ชอบการแสดงคนเดียว เพราะพื้นฐานผมคือมือกีตาร์และผมก็ชอบมันด้วย แต่ผมก็ได้พบว่า การแสดงเดี่ยวก็สนุกเี โดยเฉพาะตอนเล่นคอนเสิร์ต มันมีความหมายมาก ที่จริงผมชอบการเล่นคอนเสิร์ตมากกว่าการออกอัลบั้มอีก เพื่อที่จะได้จัดคอน ผมจึงต้องออกอัลบั้ม

ผมทำเพลงมาตลอดทั้งปี ถ้าเพลงไหนที่รู้สึกว่าเหมาะกับวง ก็จะเก็บไว้ให้วง ก่อนที่ออกอัลบั้มเดี่ยว ผมก็ทำเพลงดีๆไว้แล้ว จะอยู่ในอัลบั้มต่อไปของ CNBLUE ตอนนี้ ผมเพียงแค่ทำในสิ่งที่อยากทำจริงๆ เพราะว่า ถ้าต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มันจะไม่มีความสุข
credit eng trans by ketch_cp
#LeeJongHyun
#이종현

วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เหตุผลที่ทำไมถึงไม่ควรมองข้าม CNBLUE

เหตุผลที่ทำไมถึงไม่ควรมองข้าม CNBLUE
Source : KIMCHISLAP.COM
Special Thanks Thai Trans by myjhkm@BurningSoulsThailand


พวกเราทุกคนต่างก็ชื่นชอบวงร็อคและทุกคนต่างก็รักหนุ่มหล่อหน้าตาดี  ก็มันคือความจริงนี่นา CNBLUE เป็นวงร็อคสัญชาติเกาหลีแห่งค่าย FNC  Entertainment  ที่เดบิวท์เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2010 สมาชิกวงเป็นชายหนุ่มสุดหล่อได้แก่  จองยงฮวา อีจงฮยอน คังมินฮยอก และอีจองชิน

CNBLUE ย่อมาจาก CODE NAME BLUE (Burning - จงฮยอน, Lovely - มินฮยอก,Untouchable - จองชิน และ Emotional - ยงฮวา)
พวกเขาเป็นวงที่สองของค่ายนี้ที่มีการเดบิวท์ ซึ่งวงแรกคือ FTISLAND  
CNBLUE อยู่ในวงการมามากกว่า 7 ปี   พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น
เช่นเดียวกับทั่วทวีปเอเชีย (และทั่วโลก ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการแสดง world tour ในปี 2013 - 2014)  และพวกเขาก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าต่ออย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง

วันนี้เราเตรียมเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ควรมองข้ามหรือเมินเฉยต่อวง CNBLUE    และนั่นก็คือ
พวกเขาเป็นผู้มีความสามารถหลากหลาย
CNBLUE เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นวงที่สร้างสรรค์ แต่งและเขียนเพลงของพวกเขาเอง และหลายๆเพลงของพวกเขาก็
เป็นการแต่งให้พวกเราชาว BOICE   เมมเบอร์ทั้ง 4 ต่างก็มีพรสวรรค์และความสามารถในหลายด้าน
ชายผู้เล่นเครื่องเล่นดนตรีได้หลากหลายและยังสามารถแต่งเพลงได้อีก  พวกเขาสร้างสรรค์เพลงส่วนใหญ่ด้วยตัวของเขาเอง ยงฮวาและจงฮยอนรับหน้าที่ในการแต่งและทำเพลงต่างๆที่โด่งดังมากมาย จองชินเองก็แต่งเพลงไว้เช่นกัน  พวกเขาทุกคนสามารถร้องเพลงได้ นอกจากพ่อหนุ่มมือทองที่ทำได้ทุกอย่าง -
ยงฮวา ที่มีทักษะและเสียงร้องของร็อคสตาร์สมัยใหม่อย่างแท้จริง
จงฮยอน รู้กันเป็นอย่างดีว่าเขามีเอกลักษณ์และเสียงร้องที่นุ่มละมุน
ส่วนจองชินกับมินฮยอกเองต่างก็กุมหัวใจแฟนๆด้วยเสียงอันไพเราะของเขา
ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่ได้ทำให้พวกเราไม่รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีความสามารถ  แต่พวกเขากลับยิ่งก้าวไปข้าวหน้าต่อไปอีกเรื่อยๆ เพราะเรื่องอะไรที่พวกเขาต้องหยุดละ?
ยงฮวาก็เพิ่งเปิดเผยไปเมื่อไม่นานนี้ว่าเขากำลังหัดเล่นแซกโซโฟนเพิ่มเติมจากเครื่องดนตรีต่างๆที่เขาเล่นได้จน
เชี่ยวชาญก่อนหน้านี้และมันก็ไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียวด้วย

ถ้าคุณคิดว่ามีแค่นี้เองเหรอ.. เดี๋ยวก่อน.. มันยังมีอีกนะ
พวกเขาทุกคนต่างก็แสดงได้ดี 
พวกเขาแสดงในละครดังๆที่สร้างประวัติศาสตร์ในK-drama หลายเรื่องเลย
พวกเขาต่างก็เป็นที่รู้จักและได้รับความรักจากแฟนๆเยอะแยะมากมายที่ไม่ได้รู้จักCNBLUE ในฐานะวงดนตรี
นอกจากนี้ เมมเบอร์ทุกคนต่างก็มีความสามารถที่ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจทางด้านความบันเทิงด้วย
ยกตัวอย่างเช่น คังมินฮยอก ที่ชอบแต่งกลอน  จัดดอกไม้ที่สวยจนแทบจะหยุดลมหายใจคุณได้ไปชั่วขณะ
แถมยังชอบตีกอล์ฟที่เขาก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
จงฮยอนเป็นนักกีฬาที่เก่งกาจ  เขาเคยเป็นแชมเปี้ยนนักยูโดแห่งชาติในปูซานตอนที่เขาเรียนอยู่ไฮสคูล
และเขาก็ยังฝึกเทควันโดด้วย จองชินเป็นคนถ่ายรูปเก่ง   ส่วนยงฮวาก็เคยแชร์ภาพเขียนและงานสีดีๆมาให้เราได้ชมกัน   พวกเขาเป็นนักเต้นที่เก่ง หรือพวกเขาจะเต้นเป็นกันนะ?   จริงๆแล้วพวกเขาพยายาม แต่อย่าได้ขอให้มินฮยอกเต้นท่าของเกิร์ลกรุ๊ปนะ   มีการกล่าวขานกันว่า CNBLUE ไม่ชอบไปเที่ยวผับ  แต่พวกเขาต่างก็รู้วิธีการเต้น มีคนกระตุ้น คังมินฮยอก     คลิกดู Weekly Idol 140326 Werkly Idol - CNBLUE Dance Battle
https://youtu.be/Jsj3tSz8Q_Q

 เวลาอยู่บนเวที พวกเขากลายเป็นตำนานแห่งวงดนตรีที่แสดงสด และเป็นเจ้าแห่งการแสดงมารู้จักพวกเขาในมุมตอนที่พวกเขา "อยู่บนเวที" กัน CNBLUEที่ แสดงบนเวทีคือคนละเรื่องกันเลย
แต่กลับเป็นเรื่องที่จะต้องเล่าสู่กันฟัง
ถ้าคุณโชคดี ได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตของพวกเขาหรือการแสดงของพวกเขาแล้วล่ะก็ คุณอาจจะคิดว่า พวกเขาเกิดมาบนเวทีและเครื่องดนตรีเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขาหรือเปล่า  เพราะพวกเขาแสดงได้อย่างน่าประทับใจยิ่งนัก  การแสดงของเขาต่างก็ให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้รักเสียงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นแฟน K-pop หรือไม่ใช่ก็ตาม
เพลงของ CNBLUE ที่ฟังสดในการแสดงคอนเสิร์ตมันเยี่ยมมากๆ  ความรู้สึกที่พุ่งพล่านตอนที่ปิดไฟและเพลงอินโทรที่เริ่มขึ้นนั้นมันสุดยอดมากๆ  และมันเป็นอะไรที่ยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ แม้ว่าคุณจะดูจากคอม คุณก็แทบจะกรีดร้องอยู่หน้าจอ และสัมผัสได้ถึงดนตรีและความสนุกสนานที่หนุ่มๆมี  คุณจะสัมผัสได้ว่าพวกเขาแสดงสดในโมเมนท์นั้นๆ โน้ตทุกตัว จังหวะทุกจังหวะ ต่างก็ส่งตรงออกมาจากใจของพวกเขา ในฮอลล์ต่างร้อนรุ่มทุกครั้งที่พวกเขาก้าวขึ้นบนเวที  และแฟนๆต่างก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเขาเพราะแฟนๆต่างก็ร้องเพลงร่วมกับหนุ่มๆด้วยนั่นเอง

CNBLUE เป็นชื่อที่รู้จักและคุ้นเคยกันในกลุ่มคนทุกวัย
หลายต่อหลายครั้งที่คุณจะไม่ได้เห็นเพียงแค่แฟนๆวันรุ่นแต่จะเห็นรุ่นคุณย่านั่งวิลแชร์มาร่วมคอนเสิร์ตด้วย
และผู้คนจากหลากหลายประเทศต่างก็บินมาเพียงเพื่อมาดูการแสดงของพวกเขา  พวกเขาได้สร้างวัฒนธรรมการแสดงคอนเสิร์ตให้กับเหล่าแฟนๆ บัตรคอนเสิร์ตของพวกเขาต่า งก็ขายหมดอย่างรวดเร็วและพวกเขาก็แสดงในฮอลที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดทั่วทั้งทวีปเอเชีย  ส่วน World Tour ของพวกเขาก็มีการจัดในทวีปต่างๆเพิ่มขึ้นมาอีก
และอีกหลายประเทศที่ตอนแรกไม่มีอยู่ในลิสต์แต่ก็จัดเพิ่มเขาไปอีกโดยที่แฟนๆต่างก็เข้าชมคอนเสิร์ตอย่างเนื่องแน่น
Wake up เป็นหนึ่งในการแสดงสุดคลาสสิคของเขา จริงๆแล้วเพลงนี้ยาวแค่ 3 นาที แต่ในคอนเสิร์ตพวกเขากลับแสดงนานมากกว่านั้น บางครั้งอาจจะนานถึง 10 หรือ 12 นาทีเลยด้วยซ้ำ! มาหัวเราะร่วมกันกับพวกเขาดีกว่า!
บางทีพวกเขาอาจจะดูซีเรียสแต่จริงๆแล้วพวกเขาก็เป็นแค่หนุ่มขี้เล่นสี่คนในวัยกลางยี่สิบ/เกือบจะสามสิบน่ะนะ

พวกเขาเป็นศิลปินที่ปรับตัวเข้ากับทุกอย่างได้ง่ายซึ่งทำได้ทุกแนวเพลงและไม่เคยซ้ำ
มาทำความรู้จักกับเพลงของพวกเขากัน  พวกเขาทำให้เราประทับใจมากในฐานะวงดนตรีและโซโล่
พวกเขาสร้างสรรค์งานดนตรีมากมาย  ผลิตอัลบั้มต่างๆทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นซึ่งมีหลายเพลงที่เป็นเพลงภาษาอังกฤษล้วนทั้งเพลง ทั้งยังมีแนวดนตรีที่แตกต่างกันออกไปหลายหลายแนวด้วย CNBLUE เล่นเสียงที่แตกต่างกันหลายแบบทั้งจากร็อค ไปป๊อบ ไปแจ๊ส และล่าสุด แนว EDM
ทั้งยงฮวาและจงฮยอนต่างก็ออกอัลบั้มเดี่ยวของตนซึ่งมีสีสันและทำนองเพลงแตกต่างไปจากแนวดนตรีที่พวกเขาทำในฐานะวงCNBLUE  
ในมินิอัลบั้มเกาหลีอัลบั้มแรก Bluetory  เป็นอัลบั้มแรกที่เป็นจุดเริ่มเส้นทางด้านดนตรีของพวกเขา ซึ่งมี I’m a loner เป็นเพลงไตเติ้ลของอัลบั้มนี้และชนะรางวัล      ซึ่งเป็นรางวัลแรกของพวกเขาโดยใช้เวลาเพียงแค่ 15 วันนับตั้งแต่เดบิวท์  และนั่นทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ที่ชนะรางวัลเร็วที่สุดในชาร์จดนตรี  (จนกระทั่งปี 2014 ที่วง Winner ชนะ)
นั่นเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงดนตรีและในประวัติศาสตร์ KPOP ทั่วไป ในอัลบั้มเกาหลีล่าสุด Between Us เป็นดนตรีแนว EDM ร่วมกับ ร็อค และป๊อบ ซึ่งมีส่วนสำคัญอันได้แก่เสียงร้องอันแข็งแกร่งของยงฮวา ฝีมือกีต้าร์ที่น่าทึ่งของจงฮยอน เบสของจองชินและจังหวะกลองที่ทรงพลังของมินฮยอก
เพลง Starting Over เพลงไตเติ้ลญี่ปุ่นล่าสุดจากอัลบั้ม Stay Gold  ค่อนข้างแตกต่างจาก Between Us
เพราะมันเป็นเพลงสำหรับหน้าร้านที่เพอร์เฟค   เหมาะแก่การไปแคมปิ้งหรือแค่นั่งสบายๆตอนเที่ยวกับเพื่อนนอกบ้านและใช้เวลาด้วยกันไปอย่างสนุกสนาน

พวกเขาเป็นคนทุ่มเททำงานอย่างหนัก
นับแค่ปีนี้ปีเดียว ตารางของพวกเขายุ่งมากถึงมากที่สุด  และยากที่จะนึกออกว่ามนุษย์เราจะสามารถจัดการงานเยอะแยะแบบพวกเขาทำได้อย่างไร  เมื่อมองในมุมของดารา บางครั้งคุณอาจจะสงสัยว่าพวกเขามีพลังพิเศษเหนือมนุษย์หรือเปล่า แต่CNBLUE กลับทำออกมาได้ดีเกินกว่าที่คาดกันไว้เสียอีก   แฟนๆของวงนี้ต่างพากันปลื้มปริ่มกันไปในปีนี้จากงานดนตรีที่ออกมาให้แฟนๆได้ชมได้ฟังกันเยอะแยะมากมายในฐานะวงดนตรี  ทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น งานละคร หนัง วาไรตี้โชว์ งานอีเว้นท์พิเศษ งานถ่ายภาพนิ่ง งานโปรโมทเพลงในมิวสิคโชว์ world tour และงานอื่นๆที่ลิสต์ไว้อีกมากมาย พวกเขาเริ่มต้นจากการปล่อยมินิอัลบั้ม 7ºCN ในเกาหลี
จากนั้นก็ปล่อยซิงเกิ้ลญี่ปุ่น Shake! แล้วตามต่อด้วยอัลบั้มเต็มญี่ปุ่น Stay Gold และยังมีอัลบั้มเดี่ยวอีกสองอัลบั้มที่จองยงฮวาออกในปีนี้  มินิอัลบั้มเกาหลีแรก Do Disturb แล้วตามด้วย อัลบั้มญี่ปุ่น Summer Calling
ทั้งนี้พวกเขายังมีคอนเสิร์ตอีกมากในหลายเมือง หลายประเทศ

พวกเขาทั้งหมดหน้าตาดีระดับแนวหน้า
เราไม่จำเป็นต้องบอกคุณหรอก แค่คุณมอง คุณก็จะเห็นได้ด้วยตัวคุณเอง  เพราะมันออกจะชัดเจนขนาดนี้ เขาสูงและหล่อลากดิน  ส่วนสูงของพวกเขาเริ่มต้นที่ 180 ถึง 187 ซม เมมเบอร์ของวงร็อคทั้ง 4 คนนี้จะเขย่าโลกของคุณ
ไม่ใช่แค่ดนตรีและการแสดงอันน่าทึ่งทั้งสองอย่างนี้ของพวกเขา  แต่ความหน้าตาดีระดับท็อปของพวกเขาด้วยเช่นกัน ด้วยความที่หน้าตาดี หล่อเหลา พวกเขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นวงดนตรีหนุ่มดอกไม้ตั้งแต่เดบิวท์
ซึ่งมันก็เป็นความจริง แต่ดอกไม้เหล่านั้นเป็นดอกไม้ที่มีทั้งทักษะ ความสามารถเป็นเลิศ  ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่แฟนๆตกหลุมรักพวกเขาอย่างหนัก ทุกคนในวงต่างก็เคยเป็นนายแบบให้กับหลายแบรนด์ต่างๆหลายแบรนด์
ถ่ายแบบให้แมกกาซีน และถ่ายโฆษณาอีกมาก  ด้วยความที่มีรูปร่างผอมและสูงที่สุดของวง น้องเล็กสุดของวงนี้ 
จองชินจึงมีโอกาศร่วมเดินแบบบนเวทีเดินแบบมากมาย และเขาก็ทำได้ดีไม่มีที่ติเลยทีเดียว ช่วงนี้น้องเล็กเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างเห็นได้ชัดซึ่งเขาก็มักจะโชว์ทาง Instagram ของเขาและแฟนๆก็ชื่นชอบด้วย
เมมเบอร์คนอื่นต่างก็เป็นที่รู้กันดีว่ามีกล้ามเนื้อดีงาม มินฮยอกที่ตอนนี้โชว์ 8 แพ็คในรายการวาไรตี้ Video Star
และยงฮวาก็เล่นกล้ามมาแล้วพักใหญ่ๆเลย ไม่ต้องบอกก็รู้กัน ว่าแฟนๆคลั่งไคล้พวกเขามาก
 หมายเหตุ   ฉันรู้ๆ.. พวกเขาเป็นวงหน้าตาดี เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดนี่เถอะ
ถ้าคุณไม่อยากให้ชีวิตยุ่งเหยิงล่ะก็ อย่า คลั่งพวกเขา!

พวกเขาเป็นคนติดดิน
อย่างแรกเลย เราต้องพูดมาคุยกันก่อนว่า CNBLUE  ไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนเดบิวท์  สมัยนั้นหนุ่มๆเป็นวงอินดี้ที่ออกแสดงตามคลับเล็กๆ หรือต่อหน้าฝูงชนกลุ่มเล็กๆ หรือไม่ก็บนถนน ที่น่าตกใจคือพวกเขาเคยถูกจับเข้าคุกเพราะการแสดงบนถนนของพวกเขา  แต่จริงๆแล้วพวกเขาได้เรียนรู้วิธีการเล่นดนตรีร็อคจากการแสดงบนถนนและในคลับที่ญี่ปุ่นก่อนจะกลับไปเดบิวท์ที่เกาหลีในปี 2010  หลังจากที่เข้าสู่วงการมาเกือบทศวรรษ พวกเขาก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
พวกเขาไม่เคยแสดงอาการ “ดารา” (ไม่ทำตัวเป็นคนดัง) เลย พวกเขาเคยเป็นหนุ่มขี้เล่น บ้าบอ น่ารัก ที่ชอบการแกล้งและเล่นเพลงร็อคไปในแต่ละวัน ในตอนนี้พวกเขาเป็นหนุ่มขี้เล่น บ้าบอ น่ารัก ที่ยังคงชอบทำในสิ่งนั้นเหมือนเดิม เป็นที่รู้กันดีว่า เมมเบอร์ทั้งสี่เป็นผู้นำการใช้ชีวิตแบบสมถะ  และไม่ได้แสดงความบ้าในที่สาธารณะ พวกเขาแทบจะไม่มีข่าวเสียหายตลอดระยะเวลาที่พวกเขาอยู่ในวงการนี้เลย  แถมพวกเขายังเป็นรุ่นพี่ที่ดีให้กับน้องใหม่ มากมาย
อีกทั้งยังให้ความเคารพรุ่นพี่ทุกคนอีกด้วย 
ด้วยเหตุนี้  พวกเขาจึงผูกมิตรและมีเพื่อนในทุกที่ที่เขาไปแสดงตัวก็เพราะลักษณะนิสัยและความเป็นธรรมชาติของพวกเขา  และสีหน้าเคร่งเครียดของพวกเขาก็ไม่เคยโกหกพวกคุณเลยนะ! พวกเขาน่ารักสุดขั้ว...อืมม อย่างน้อยก็พยายามกับพวกเราล่ะนะ

พวกเขาน่ารักกับแฟนๆ
แฟนด้อมของ CNBLUE มีชื่อว่า BOICE (blue + voice)  และพวกเขาแต่งเพลงหลายๆเพลงให้ BOICE
หนึ่งในเพลงที่แต่งล่าสุดและเป็นที่รักของแฟนๆคือ Manito  เป็นเพลงจากอัลบั้มเกาหลีล่าสุด 7ºCN
พวกเขาร้องเวอร์ชั่นอคูสติกในการแสดงสดช่วงอังกอร์ใน Between Us Tour  โดยเมมเบอร์แต่ละคนร้องและแฟนๆต่างก็ร้องคลอไปกับเพลงนี้ด้วย คังมินฮยอกเซอร์ไพร์สลักกี้แฟน เขาไปเป็นแขกรับเชิญให้กับรายการ “Well Done Again Today” ของช่อง Dingo Studio’s ซึ่งเป็นรายการที่แฟนคลับมาทำงานพาร์ทไทม์  มินฮยอกมาพบแฟนที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นผู้แจกใบปลิวบนถนน  ผู้คนต่างก็ไม่สนใจเธอ บางคนถึงขั้นด่าทอสาปแช่งเธอ  เมื่อเจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์ หรือรู้จักกันในนาม มินฮยอกปรากฎตัวเพื่อช่วยเธอทำให้แฟนๆตื่นตะลึงมาก   เธอช็อคและปิดหน้าตัวเอง
ด้วยความเขิน แต่มินฮยอกกลับเอาใบปลิวบางส่วนไปช่วยเธอแจกจากนั้นเขาก็พาเธอไปเดทในที่ๆเขาเตรียมเซอร์ไพร์สเธอด้วยการพาไปโดด  paragliding ทุกอย่างที่เขาทำให้เธอช่างน่ารักมากๆ
จองชินกับมินฮยอกต่างก็มีอีเวนท์จากละครใน VLive ที่เป็นรายการที่เขาพาแฟนไปเดทด้วยจริงๆ และเขายังสร้างเสียงหัวเราะด้วยกันเป็นการสร้างความบันเทิงให้กับ BOICE มากมาย พวกเขาไปดูจุดท่องเที่ยวหลายๆจุดรวมถึงสถานที่โรแมนติกดังๆอีกหลายที่ จุดเทียน ชงกาแฟ และอ่านกลอนรวมถึงทำ แบบทดสอบบุคลิกภาพสนุกๆกับแฟนผ่านซีรียส์ต่างๆเหล่านั้น และแน่นอน พวกเขาจัดงานอีเว้นท์ต่างๆสำหรับแฟนคลับทั่วโลกทุกครั้งที่พวกเขาไปยังประเทศต่างๆ

พวกเขาเป็นคนมีชื่อเสียงและพวกเขาก็จริงใจและเป็นคนจริง
พวกเขาเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริงและมีความสง่างาม มีระดับ มีสไตล์ (ถึงแม้ว่า อีจงฮยอนจะบอกว่าตัวเองเป็นผู้ก่อการร้ายทางแฟชั่นโดยสื่อและแฟนคลับ  แต่เราได้ค้นหาภาพลักษณ์ส่วนตัวของหนุ่มข้างห้องผู้เรียบง่าย) ความเป็นแมน น่ารัก อ่อนโยน ตลก เซ็กซี่ และ เป็นธรรมชาติ ทั้งหมดในคราวเดียวกัน เมมเบอร์ของ CNBLUE มีบุคคลิกหลากหลายด้าน แต่ถ้าคุณติดตามพวกเขา พวกคุณจะรู้เลยว่า พวกเขาไม่เคยเสแสร้งเลย
พวกเขาเป็นมิตรและเปิดรับคนอื่นๆ พวกเขาไม่กลัวที่จะโชว์ความขี้เล่นบ้าบอให้เห็น พวกเขากลับแชร์สิ่งที่พวกเขาชอบเป็นประจำ  บางครั้งพวกเขาก็เป็นแฟนบอย เช่น ยงฮวา เป็นแฟนซีรียส์ Game of Thrones หรือ Stranger Things

พวกเขาพูดในสิ่งที่เขาคิดและคิดในสิ่งที่จะพูด
บรรดาแฟนคลับต่างก็รู้ถึงปฏิสัมพันธ์ตลกๆต่างๆมากมายที่พวกเขามีกับดาราท่านอื่น  เช่นเมื่อเร็วๆนี้ จงฮยอนขอ ชานยอล วง EXO แต่งงานผ่านทาง Instagram หลังจากที่ชานยอลบอกรักจงฮยอนและแฟนๆเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลก น่ารักๆ หรือมิตรภาพที่มีกับ B.A.P ฮิมชานและมุกตลกซื่อๆของทั้งคู่ หรือยงฮวาที่เที่ยวบอกใครต่อใครให้ซัพพอร์ทรุ่นพี่และรุ่นน้องของเขา คิมซามูเอล ตอนที่เขาเดบิวท์ ปฏิสัมพันธ์ของจองชินกับอดีตสมาชิกวง Royal Pirates คือ เจมส์
และมินฮยอกที่เป็นที่รักของรุ่นพี่ผู้หญิงค่ายเดียวกันและโดยทั่วไปแล้วทุกคนต่างก็เป็นเช่นนี้    แต่ ถึงแม้พวกเขาจะเล่นตลก พวกเขาก็ยังสุภาพอยู่นะ

พวกเขาเป็นคนดีอย่างแท้จริง
วิธีที่พวกเขาปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆและเพื่อนดาราด้วยกันหรือเพื่อนร่วมงานต่างก็แสดงออกแบบนี้  นอกจากนี้พวกเขายังสุภาพ มีกิริยาดี อยู่ตลอดเวลา พวกเขายังน่ารักเวลาอยู่กับเด็กๆและเป็นคนรักสัตว์จริงจังด้วย  หนุ่มๆเป็นคนมีเสน่ห์และให้เกียรติกับผู้หญิงและผู้ที่อายุมากกว่า วิธีการที่เขาปฏิบัติกับสมาชิกครอบครัว แฟนคลับและสัตว์เลี้ยง
ก็เป็นการแสดงออกถึงความรักที่พวกเขามีให้ แค่เช็คแอคเคาท์ Instagramส่วนตัวของพวกเขา   มันก็เพียงพอแล้วที่จะบอกให้เรารู้ว่าทั้ง 4 คนจะเป็นสามีที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงจะต้องยอมรับอย่างเต็มใจ 
พวกเขาห่วงใยและช่วยทำให้โลกดีขึ้น
เมมเบอร์ CNBLUE ห่วงโลกและพวกเขาทำหลายอย่างที่เขาสามารถทำเพื่อช่วยโลกได้ พวกเขาเข้าร่วมในโปรเจคการบริจาคต่างๆนับตั้งแต่เดบิวท์แรกๆและใช้อิทธิพลของพวกเขาทุกทางไม่ว่าจะในฐานะวงหรือแม้แต่ในฐานะส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือผู้คน  เร็วๆนี้ รายการ “The List 2017” ทางช่อง tvN ได้เปิดเผยจำนวนดาราที่บริจาคให้มากที่สุด CNBLUE อยู่อันดับ 3 ในลิสต์ร่วมไปกับดาราท่านอื่น เช่น คิมยูนา ไอยู และ Tiger JK
CNBLUE ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแฟนคลับที่ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่น พวกเขายังบริจาครายได้จากการขายอัลบั้มและกำไรจากการแสดงคอนเสิร์ตให้กับองค์กรเพื่อการกุศลในทวีปแอฟริกา
หนึ่งในโปรเจคการบริจาคที่น่าจดจำของพวกเขาคือการสร้างโรงเรียนให้กับเด็กในเมือง Burkina Faso ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่จนที่สุดในทวีปแอฟริกา  การบริจาคของพวกเขาได้มาจากการแสดง world tour เพื่อการสร้างโรงเรียน
CNBLUE และไม่นานหลังจากประกาศเรื่องการสร้างโรงเรียนแห่งที่สอง พวกเขาไม่เพียงแต่ช่วยสร้าง
แต่พวกเขายังบริจาคกำไรจากการขายอัลบั้มและการขายบัตรคอนเสิร์ตเพื่อเป็นการจัดหาและจัดสรรโรงเรียนเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ   นอกจากนี้ CNBLUE และ ซอลฮยอน ได้เจอกับเด็กที่ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้เพื่อก่อตั้งมูลนิธิ Make A
Wish 
คอนเสิร์ต “BLUESTORM” ที่กรุงเทพถูกเลื่อนออกไปเพราะเหตุการณ์น้ำท่วม แต่สุดท้ายแล้วคอนเสิร์ตนี้ก็มีการจัดขึ้น และในคอนเสิร์ตนี้มีแฟนคลับเข้าชมทั้งหมดประมาณหนึ่งหมื่นคน หนุ่มๆมีการนำชุดที่พวกเขาใส่ขึ้นเวทีมาเปิดประมูลเพื่อรวบรวมช่วยบริจาคให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม  มันเป็นวิธีที่พวกเขาทำให้กับแฟนคลับ   จองยงฮวาอาสาให้อาหารและสิ่งจำเป็นอื่นๆให้กับผู้คนมากกว่า 500 คนที่ยังขาดแคลนและต้องการ โดยเขาให้ในงาน BC Card Love Sharing Festival ที่จัดขึ้นที่สนาม Seoul World Cup Stadium
และมันยังมีอีกหลายเหตุการณ์นับไม่ถ้วนที่เขาจัดการประมูลในหลายๆแบบเพื่อเป็นการช่วยบริจาค เช่นคอนเสิร์ตของพวกเขาที่ฮ่องกงในปี 2013 ที่มีการประมูลสองที่นั่งแถวหน้าสองที่นั่นและนำไปบริจาคให้ Orbis  เพื่อการวิจัยด้านมองเห็นและป้องกันตาบอด   หนุ่มๆทั้งสี่ได้มีการสลักกำไลข้อมือด้วยมือของพวกเขาเองและกำไรจากการขายทั้งหมดก็นำไปบริจาคเช่นกัน พวกเขายังห่วงใยสัตว์ มินฮยอกจัดทำสารคดีเกี่ยวกับแมวจรจัดเรียกว่า “I Am a Cat” 
และจองชินก็ได้แชร์ข้อแนะนำเกี่ยวกับการจะรับสัตว์มาเลี้ยงและความรับผิดชอบที่จะต้องมีตามมา
และลิสต์นี้ก็จะยังคงมีไปเรื่อยๆตลอดไป แค่คุณ google หา การบริจาคของ CNBLUE (CNBLUE charity)
และคุณสามารถใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆในการอ่านเรื่องราวเหล่านี้และเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้ด้วยนะ  เพราะคุณอาจน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งได้
ความจริงและความสำเร็จหลายๆเรื่องของ CNBLUE  (ขอขอบคุณ CNBYounghwa_INA สำหรับการส่งเรื่องนี้มาให้เรา)

CNBLUE ถือเป็นหนึ่งในวงร็อคของเกาหลีไม่กี่วงที่ประสบความสำเร็จและอยู่ระดับแนวหน้าในวงการดนตรีของเกาหลีที่มีวงdance pop อยู่เป็นส่วนมาก จากสถิติที่บันทึกโดย mymusictaste ซึ่งเผยแพร่โดย Billboard magazine ในเดือนพฤษภาคม 2016 พบว่า CNBLUE จัดคอนเสิร์ตขึ้นทั้งหมด 101 ครั้งตั้งแต่ปี 2013 – 2016 และถูกจัดอยู่ในอันดับ 3 ของคอนเสิร์ต KPOP รองมาจากวงในตำนาน Super Junior และ Bigbang Linking Park เชิญให้ CNBLUE ไปเปิดคอนเสิร์ตของเขาที่จัดขึ้นที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ในปี 2012 CNBLUE ประสบความสำเร็จในการจัดคอนเสิร์ตที่ลอนดอน โดยมีผู้ชม 4000 คนจากทั่วทวีปยุโรป
นอกจากนี้ในปี 2013 พวกเขายังเป็นวงดนตรีจากประเทศเกาหลีใต้วงแรกที่มีการจัดคอนเสิร์ตทั่วโลก  พวกเขายังจัดคอนเสิร์ตในหลายๆประเทศทั่วทวีปเอเชีย เช่น เกาหลี จีน ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น
รวมถึงพวกเขาได้จัดทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศออสเตรเลีย (2013) อเมริกา (2014) และ อเมริกาใต้ (เม็กซิโก เปรู และ ชิลี ในปี 2014)
พวกเขาแสดงงานเทศกาลดนตรีในหลายประเทศนอกเหนือไปจากคอนเสิร์ตโซโล่และงานทัวร์ของพวกเขา
เช่น เทศกาลดนตรี KPOP และ KCON ในอเมริกาหลายปี เทศกาลดนตรี KPOP ในซิดนีย์ (2011) งาน Music Bank ในประเทศชิลี (2012) เทศกาลดนตรี Summersonic (2013 – 2014) และสัปดาห์ Rock-A-Nation ที่ญี่ปุ่น (2012;2014)
จากการสำรวจของ Nikkei Style Japan พบว่า CNBLUE ติดอันดับที่ 40 ในฐานะ“ผู้ทรงอิทธิพลด้านการขับเคลื่อนคอนเสิร์ต ประจำปี 2016 มากที่สุด (2016 most mobilization concert power)”  โดยมียอดผู้เข้าชมคอนเสิร์ตของพวกเขารวมทั้งสิ้นมากกว่า 187,000 คน ในปี 2012 อัลบั้มญี่ปุ่นแบบเต็มอัลบั้มที่สองของพวกเขา “Code Name Blue”  ติดอันดับ 1 ใน Oricon chart ที่ญี่ปุ่น  ในเดือนมกราคม 2013 mini album ชุดที่ 4 ของ CNBLUE “Re-Blue” ติดอันดับ1 ใน Billboard World album chart  จนกระทั่งในปี 2016 CNBLUE ได้รับถ้วยรางวัลมาแล้วทั้งหมด 39 ถ้วย/รางวัล จากงานแสดง Korean Music เช่น Music Bank (12), Inkigayo (5), M Countdown (7), Show Champion (7), The Show (4)
ส่วนจองยงฮวาได้รางวัลทั้งหมด 4 ถ้วยรางวัลจากงานโซโล่ของเขา

แล้วเมมเบอร์มีใครบ้างละ?จองยงฮวา   Emotional leader เขาเป็นนักร้องหลักของวง CNBLUE นักแต่งเพลง
และ producer เขาเดบิวท์ในฐานะนักแสดงเมื่อปี 2009  ก่อนที่วงจะเดบิวท์อย่างเป็นทางการ โดยเขาแสดงในละครเรื่อง You Are Beautiful ซึ่งโด่งดังและได้รับกระแสตอบรับมากมาย นอกจากหน้าที่ของเขาในวง ยงฮวายังเดบิวท์แบบโซโล่เมื่อปี 2015 กับอัลบั้มของเขา One Fine Day (ทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นที่ 1 ใน Billboard album chart ทั่วโลก และเร็วๆนี้เขาคัมแบคในเกาหลีกับอัลบั้ม Do disturb  และในญี่ปุ่นกับอัลบั้ม Summer Calling เขาเป็นคนใจเย็นและไม่ชอบ “โต้เถียงเพื่อให้ชนะ” มากนัก เพราะงั้นถ้าคุณกำลังมองหาเขาละก็ คุณจะสามารถเจอเขาได้ทั้งในสตูดิโอส่วนตัวหรือบนโซฟากำลังนั่งดูซีรี่ยส์ฝั่งอเมริกา อย่างเช่น Game of Thrones หรือ Stranger Things ก็ได้

 อีจงฮยอน   Burning guitarist เขามีอายุเยอะเป็นอันดับสองในวง CNBLUE และเขายังเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และ producer ด้วย เมื่อปี 2016 เขาออกอัลบั้มเดี่ยวในญี่ปุ่นชื่อ Sparkling Night ในวงเขาคือ “ลุง” เป็นคนที่รักการตกปลาและอ่านหนังสือ และเขายังเป็นผู้ก่อการร้ายทางแฟชั่นของวงนี้อีกด้วยนะ!

 คังมินฮยอก  Lovely drummer เขายังเล่นฟลุทได้ด้วย เขาเรียกตัวเองว่าMr. Kanggun และเป็นมือกลองที่น่ารักที่มาพร้อมกับตาที่ยิ้มเพอร์เฟคเป็นที่รักของรุ่นพี่ผู้หญิง  เขามีภาพลักษณ์ของแฟนหนุ่มผู้เพียบพร้อมและเป็นคนไนซ์โดยพื้นฐานเป็นเปรียบเสมือนบอลนุ่มๆเหมือนเทวดาที่โตขึ้นมาเป็นหนุ่มมาดแมน และหล่อเหลา เขาเป็นส่วนหนึ่งของ maknae line ในวง CNBLUEเขาเป็นพี่ชายของแมวสองตัว ชีชี่ และ ตาต้า และเป็นที่มาของ “cat lady”
ในวง เขาชอบจัดดอกไม้และตีกอล์ฟ

 อีจองชิน  Untouchable Bass player จองชินเป็นสมาชิกที่สูงที่สุดในวงแต่อ่อนที่สุดในวง หนุ่มคนนี้ใช้ชีวิตอยู่กับ “ลูกชาย” ที่รักตัวใหญ่ขนฟูพันธุ์ golden retriever ชื่อ ซิมบ้าและยังใช้ชีวิตในการเป็นนักถ่ายภาพที่ทำไปด้วยกันกับพี่ชายแท้ๆ อียงชินเขาเป็นไวรัสความสุขของวง CNBLUE เลยนะ

 (เป็นบทความดีๆที่อยากให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ ขอบคุณผู้เขียนบความ
KIMCHISLAP.COM   ขอบคุณผู้แปลไทย @myjhkm )

แปลบทสัมภาษณ์ อีจงฮยอน จาก Minitheater About JP Movie “Living City”

แปลบทสัมภาษณ์  อีจงฮยอน จาก Minitheater About JP Movie “Living City” Special Thanks Eng trans by ketch_cp Thai Trans by BurningSouls Thailan...